ช่างรู้คู่บ้าน "เลือกวัสดุยาแนวผิด" ชีวิตเปลี่ยน
ช่างรู้คู่บ้าน
รู้ไหมยาแนวที่เราใช้ๆ กันอยู่ทุกวันมีกี่ประเภทและต้องเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม?
เคยใช่ไหม.. เวลาพบปัญหาแตกร้าวหรือรั่วซึมต่างๆ เราก็มักจะใช้ปืนยิงซิลิโคนหรือยาแนวเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเองแต่พอระยะเวลาผ่านไปไม่นาน จุดที่ทำการซ่อมแซมก็กลับมามีปัญหาอีกครั้ง เนื่องจากซิลิโคนหรือยาแนวที่ใช้นั้นมีการหลุดร่อนซึ่งปัญหาที่แท้จริงที่ซ่อมเท่าไหร่ก็ไม่จบซักทีก็เพราะ “เลือกวัสดุยาแนวผิดประเภท” ในการใช้งานนั่นเอง
แบบซิลิโคนั้นจะมีคุณสมบัติหลักๆ ดังนี้
ข้อดี
- มีความยืดหยุ่นถึง 25 %
- ทนรังสี UV
- แรงยึดเกาะสูง
- ใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายใน
ซึ่งก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
ประเภทที่มีกรด
เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเช่นอุดรอยกระจกต่างๆ หรือตามวงกบประตูหน้าต่าง เพราะแห้งเร็ว แต่ห้ามนำไปใช้กับวัสดุที่ผลิตมาจากหินหรือเซรามิกเพราะจะไปกัดจนทำให้วัสดุเหล่านั้นเสียหายได้ อีกทั้งยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างเหม็นเปรี้ยวอีกด้วย
ประเภทที่ไม่มีกรด
เหมาะกับงานโลหะหรือหินธรรมชาติเพราะจะไม่ทำให้วัสดุเหล่านั้นเสียหาย อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นรบกวนใจแต่มีข้อเสียคือราคาแพง แห้งช้า ไม่ค่อยมีความแข็งแรง และไม่สามารถทาสีทับได้
แบบอะคริลิคนั้นจะมีคุณสมบัติ หลักๆ ดังนี้
ข้อดี
- ทาสีทับได้
- ราคาถูก
ข้อเสีย
- ไม่ทนแดด
- ความยืดหยุ่นต่ำ
- ทนทานน้อย
รับแรงได้ต่ำ
โดบแบบอะคริลิคนั้นเหมาะสำหรับใช้งานภายใน เช่น ยาแนวฝ้า/รอยต่อชักโครก/รอยต่อสุขภัณฑ์ ซึ่งต้องคอยสังเกตุให้ดีในในการใช้งานเพราะเป็นยาแนวที่มีคุณสมบัติด้อยที่สุดในตระกูลของยาแนว ซึ่งต้องคอยสังเกตุให้ดีเมื่อต้องใช้งาน หรือเพื่อเอาไว้ตรวจสอบกับช่างว่าใช้วัสดุได้เหมาะสมกับหน้างานหรือไม่
แบบโพลียูริเทนหรือพียูจะมีคุณสมบัติหลักๆ ดังนี้
ข้อดี
- มีความยืดหยุ่นถึง 25 %
- แข็งแรงทนทาน
- ทนแสง UV ได้ในระดับหนึ่ง
- ใช้ได้ทั้งภายนอกภายใน
- รับแรงดึงได้สูง
- ไม่หลุดไม่ร่อน
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
ยาแนวตัวนี้มีคุณสมบัติที่ครบเครื่องในเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะงานภายนอกหรืองานภายในที่ต้องใช้ความแข็งแรงเป็นพิเศษซึ่งใช้ตัวนี้ ถือว่าจบสุดทั้งเรื่องการเชื่อมรอยต่อต่างๆ
แบบโมดิฟายซิลิโคน หรือ ไฮบริด
เป็นซิลิโคนที่มีการเอาข้อดีและข้อเสียของทั้ง แบบ พียู และ แบบซิลิโคน มาผสมผสานกัน เพราะทั้งยืดหยุ่นและป้องกันรังสียูวีได้เหมือนซิลิโคน และทาสีทับได้เหมือนพียูอีกทั้งยังไม่มีกรดอีกด้วย โดยถ้าพูดถึงเรื่องคุณสมบัติ โมดิฟายซิลิโคน หรือ ไฮบริด จะดีที่สุดในรุ่น แต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวเลยคือราคาจะสูงมากกว่ายาแนวชนิดอื่น
ทริคส่งท้ายดีๆ จากทีมช่าง 24 FIX
- ต้องทำความสะอาดพื้นผิวให้เรียบร้อยเพราะถ้าเราทำความสะอาดพื้นผิวหน้างานไม่เรียบร้อยจะทำให้วัสดุยาแนวนั้นไม่สามารถเกาะกับพื้นผิวนั้นๆ ได้
- ควรเลือกยาแนวให้เหมาะสมกับหน้างานมากที่สุดเพราะจะส่งผลต่องบประมาณในการซ่อมแซม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Website: 24 FIX | แจ้งซ่อม
Facebook Chat: m.me/24fixco
ศูนย์บริการสุขภาพบ้าน
Call center: 02-114-7052
.
#24FIX
#maintenanceservicesolution
#งานซ่อมมาตรฐานบริการประทับใจ #มือช่างที่คุณวางใจ #คิดซ่อมบ้านคิดถึง24FIX